top of page

ธุรกิจกอล์ฟ 2018 รุ่งหรือร่วง?

  • Writer: oilhath
    oilhath
  • Feb 15, 2019
  • 1 min read

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน เพิ่งฉลองปีใหม่กันได้ไม่เท่าไหร่ ก็มาถึงเดือนกุมภาพันธ์อย่างรวดเร็ว

หลายๆท่านคงได้เห็นความคึกคักผ่านสื่อโซเชียลทั้งหลาย และคาดการณ์ว่าตลาดกอล์ฟเป็นตลาดที่ใหญ่พอสมควร รวมทั้งยังมีนักกอล์ฟขวัญใจคนไทย ออกมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้อุปกรณ์กอล์ฟกันมากมายตามสื่อต่างๆ เรามาสำรวจกันจริงๆดีกว่าว่า อันที่จริงแล้ว ตลาดกอล์ฟ บูมอย่างที่คิดหรือไม่

ถ้าเทียบตามประชากรโลกแล้ว ตลาดกอล์ฟซบเซากว่าที่คิด อันเนื่องมาจากประชากรที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่หวือหวา และยิ่งถ้าเป็นประเทศไทยแล้วละก็ อัตราการเกิดก็น้อยลง นักกอล์ฟรุ่นถัดๆมาก็จะมีผลให้น้อยลงไปด้วย เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะขยายตลาดวงการกอล์ฟ นั่นหมายความว่า คุณต้องดึงกลุ่มที่ไม่รู้จักกอล์ฟ หรือเพิ่งหัดตีกอล์ฟ หรือพวกที่เคยตีแล้วเลิกไป ให้หันกลับมาตีกอล์ฟ เพื่อเป็นการขยายตลาดหรืออย่างน้อยก็ maintain ให้ยังคงอยุ่ แต่ปัจจัยเหล่านี้ เป็นปัจจัยที่ควบคุมได้ยากเหลือ เพราะขึ้นอยู่กับความชอบและข้อจำกัดส่วนบุคคล เพราะอย่างที่รู้กันดีว่า กอล์ฟ เป็นกีฬาที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม ไม่ได้เอื้ออำนวยให้คนใหม่ๆได้เข้ามาลิ้มลอง หรือเมื่อลิ้มลองแล้วติดใจ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงอยู่ดี เพราะฉะนั้นกลุ่มใหม่ๆที่จะเข้ามาในตลาดกอล์ฟ จึงเป็นปัจจัยที่แปรปรวน เอาแน่นอนไม่ได้ ขึ้นอยู่กับกระแส ณ ตอนนั้น ยกตัวอย่างเช่น เมื่อสองปีที่แล้วที่ โปรเม ขึ้นเป็นมือวางอันดับโลกนั้น ทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่เล่นและไม่เล่นกอล์ฟ หันกลับมาสนใจให้ความสำคัญ อุปกรณ์กอล์ฟที่โปรเมใช้ ก็จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โฆษณาต่างวิ่งเข้าหาเพื่อให้ขายสินค้าได้ผ่านพรีเซ็นเตอร์ที่กำลังเป็นจุดสนใจ

สำหรับประเทศไทยนั้น ดิฉันคิดว่าการที่จะไปพึ่งปัจจัยที่เป็นไปได้ยาก และการเกิดมาและดับไปของชื่อเสียงมันไม่ยั่งยืนค่ะ เรามาดูธุรกิจกอล์ฟ ที่น่าจะมีความเป็นไปได้กันจะดีกว่า มีสองอย่างที่น่าสนใจ คือ

1) ธุรกิจทัวร์กอล์ฟ

ทำไมถึงน่าสนใจนะหรอคะ ก็เพราะถ้าเรามองตามความเป็นจริง ประเทศไทยเรามีสนามกอล์ฟกว่าสองร้อยสนามทั่วประเทศ ทั้งที่เป็นสนามกอล์ฟ และสนามไดร์ฟ สามารถเล่นกอล์ฟได้ทั้งปี มีค่าครองชีพต่ำ ราคาประหยัด และยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายที่นักกอล์ฟสามารถมากันได้ทั้งครอบครัว อาหารการกินก็ดี มีตั้งแต่คุณภาพธรรมดาๆ จนถึงระดับมิชลิน ไม่แปลกใจว่าทำไม Golfer Destination จึงมีประเทศไทยติดอันดับไปด้วย บรรยายสรรพคุณมาหมดแล้ว และมันน่าสนใจยังไงใช่มั้ยคะ ลองยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ประเทศญี่ปุ่น ที่มีประชากรร้อยกว่าล้านคน ญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่ให้ความสนใจกับกีฬากอล์ฟอย่างมาก ลองนึกภาพนะคะว่า ถ้าเราสามารถดึงคนญี่ปุ่นแค่ห้าเปอร์เซ็นที่มีกำลังซื้อ เดินทางมาเล่นกอล์ฟในเมืองไทย เราจะสามารถขยายตลาดวงการกอล์ฟไทยได้มากขนาดไหน แน่นอนว่าเม็ดเงินมหาศาลกว่าการหาเงินกับนักกอล์ฟไทยทั้งประเทศได้เป็นแน่ เพราะฉะนั้น หากคนที่ต้องการจะทำธุรกิจในวงการกอล์ฟจริง ก็น่าจะลองหันมามองความเป็นจริงว่า เราจะหวังพึ่งตลาดในไทยได้จริงรึเปล่า หรือควรจะต้องปรับตัวในการทำธุรกิจที่ค่อนข้างรองรับกับการมาของต่างชาติ จะดีกว่า

2) ซื้อขายไม้กอล์ฟออนไลน์

สำหรับธุรกิจนี้ บอกได้ตามตรงเลยว่าเหมาะเหลือเกินกับจริตของคนไทย เพราะเราเป็นชาติที่ชอบการช้อปปิ้งเป็นนิสัย บ่งบอกได้จากบ้านเรามีห้างสรรพสินค้าอยู่เต็มเมือง ในขณะที่ต่างประเทศห้างสรรพสินค้าทยอยปิด โดยปกติ ถ้าเป็นนักกอล์ฟตัวจริง เราก็จะไปเลือกดูไม้กอล์ฟกันที่ตึกดังย่านสีลม เพราะมีร้านกอล์ฟหลากหลาย มีไม้กอล์ฟให้เลือกสรร แต่ครั้นจะไปทุกครั้งที่ซื้อ ก็เดินทางลำบาก ซึ่งโชคดีที่สมัยนี้เราสามารถสั่งซื้อผ่านเวบไซต์ได้ ไม่ต้องเดินทางไปให้เสียเวลา นอกจากนี้ ยังมีช่องทางให้ซื้อไม้กอล์ฟผ่านสื่อโซเชียลอีกมากมาย เมื่อไม่นานมานี้ บังเอิญไปเจอเฟซบุ๊ค close group เพจ ที่ต้องเป็นสมาชิกเท่านั้น ในกรุ๊ปนั้นมีสมาชิกเกือบสองหมื่นคน ที่อยากยกตัวอย่างก็เพราะ เราได้เห็นถึงการปรับตัวที่เข้าท่า ซึ่งเดาว่าน่าจะเกิดจากความต้องการของเจ้าของเพจเอง ที่อยากจะได้ไม้กอล์ฟดีๆมาใช้ ซึ่งการขาย จะไม่ได้ตั้งราคา แล้วขายตามปกติทั่วไป แต่จะเป็นการประมูล โดยแล้วแต่สมาชิกจะขายแบบตั้งราคาก็ได้ หรือประมูล โดยราคาเริ่มต้นก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของ ว่าจะเริ่มตั้งราคาประมูลที่เท่าไหร่ โดยมากจะเริ่มที่ 100 บาท และประมูลราคาขึ้นไปที่ละร้อย แต่บอกเวลาปิดประมูลชัดเจน ซึ่งเจ้าของเพจก็ดูแลเพจได้ดี ตั้งกติกาไว้ชัดเจน ทำให้เหล่าสมาชิกหมุนเวียนผลัดกันซื้อ ผลัดกันขาย อยู่ตลอดเวลา

จากที่กล่าวไว้ข้างต้น เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่มาจากประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาและมีการค้นหาข้อมูลข้อเท็จจริงในปัจจุบันของตลาดกอล์ฟบ้านเรา จึงไม่แปลกใจว่าผู้ประกอบการมักจะพร่ำบ่นถึงตลาดวงการกอล์ฟที่ซบเซาของบ้านเรา จนมาค้นพบว่าจริงว่า เราควรที่จะหันกลับมามองและให้ความสำคัญต่อตลาดต่างชาติที่มีกำลังซื้อที่เข้ามาบ้านเรามากกว่า ส่วนฉบับหน้า จะเป็นเรื่องอะไร ติดตามกันให้ได้นะคะ


 
 
 

Comments


© 2023 by Fashion Diva. Proudly created with Wix.com

bottom of page