จิ๊กซอว์สำคัญ สู่นักกีฬาระดับโลก
- oilhath
- Feb 15, 2019
- 3 min read

วันนี้ดิฉันได้มีโอกาสพิเศษ มาสัมภาษณ์ผู้จัดการคนดังของเหล่านักกอล์ฟซุปตาร์เมืองไทย หลังจากได้เจอกันที่รายการเดอะมาสเตอร์ที่ออกัสต้าปีแล้ว และก็มาถึงวันนี้ ฤกษ์งามยามดีมากๆ เพราะ ณ ตอนที่เขียนอยู่นั้น โปรเม เพิ่งจะคว้าแชมป์ ยูเอส โอเพ่น ไปหมาดๆ เลยทำให้เกิดความอยากรู้อยากเห็น มากๆ ในเรื่องของเหล่าซุปตาร์เมืองไทย ในวันก่อนที่จะประสบความสำเร็จ และแน่นอนว่า บุคคลเหล่านั้นจะสำเร็จไม่ได้ หากไม่มีทีมงานเบื้องหลังที่ดี
ดิฉันขอนัดสัมภาษณ์ผู้จัดการคนดังมาซักพัก และก็มาถึงวันที่สัมภาษณ์ที่ออฟฟิศของไอเอ็มจี (ผู้เขียนขออนุญาตใช้สรรพนามผู้สัมภาษณ์ว่า พี่วิน) ก่อนเริ่มสัมภาษณ์ พี่วินได้เล่าถึงการเพลย์ออฟของโปรเม ที่เพิ่งชนะยูเอสโอเพ่น รายการเมเจออร์ได้อย่างเมามันส์ ว่าเป็นแมทนึงที่ลุ้นตัวโก่ง เพราะต้องเพลย์ออฟกันถึงสี่หลุม คนที่ดิฉันจะกล่าวถึง นามว่า วิน อินธาระ หนุ่มดีกรีนักเรียนนอกที่จบมาจากฟลอริด้า ก่อนอื่นเลยเรามารู้ประวัติของพี่วินกันก่อนว่าเป็นใคร มาจากไหน เข้ามาทำงานกับนักกอล์ฟซุปตาร์เหล่านี้ได้อย่างไรกันค่ะ
พี่วินเกิดที่อเมริกา แต่มาเติบโตที่เมืองไทย เรียนอยู่โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี และเมื่ออยู่ม.5 ก็มีโอกาสได้มาเที่ยวที่อเมริกา แต่เกิดชอบที่นี่ คุณแม่เลยถามว่าจะมาเรียนที่นี่เลยมั้ย และนี่คือ จุดเปลี่ยนของผู้ชายคนนี้ ซึ่งพี่วินก็ตอบตกลง แล้วก็ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนเลย โชคดีที่ปีแรก ได้มาพักอยู่กับญาติ จึงได้รับการช่วยเหลืออยู่บ้าง แต่พออยู่ปีที่สอง ก็ต้องอยู่คนเดียวจนเรียนจบ ซึ่งพี่วินเองก็มักจะแฮงเอ้าอยู่กับเหล่านักเรียนไทยด้วยกัน ระหว่างเรียนก็เริ่มทำงานร้านอาหารไปด้วย แล้วก็เรียนต่อคอลเลจสองปี จากนั้นก็เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเซ็นทรัลยูนิเวอร์ซิตี้ออฟฟลอริด้า ตามสูตรนักเรียนชาวอเมริกัน และแน่นอนว่าระหว่างเรียนก็ยังคงทำงานร้านอาหารไทยมาตลอด เพราะรายได้ดี โดยเฉพาะงานเสิร์ฟ เพราะการเสริฟจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับแขกโดยตรง จึงทำให้ได้ทิปมากกว่าตำแหน่งอื่นๆในร้าน และด้วยจุดนี้เอง พี่วินจึงจบมาด้านการโรงแรมโดยตรง และด้วยการที่ทำงานร้านอาหารไป เรียนไปมาโดยตลอด ทำให้มีประสบการณ์โดยตรงอยู่หลายปี พอเรียนจบ ทางมหาวิทยาลัยมีคอนแทรคกับโรงแรม จึงเริ่มจากการทำงานโรงแรมในเครือ เมื่อทำงานได้ซักพักก็มีคนมาทาบทามจากร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง ให้มาเป็นรองผู้จัดการร้านเพราะเคยเสริฟร้านนี้มาก่อนในช่วงที่เพิ่งมาอยู่อเมริกาใหม่ๆ พี่วินเองเล่าว่า ข้อได้เปรียบของตัวเอง คือ มีสัญชาติอเมริกัน (citizen) ทำให้ที่ผ่านมา จ่ายค่าเรียนเพียงแค่หนึ่งในหก และอยู่ที่นู่นถึงสิบสามปีพร้อมประสบการณ์ทำงานด้านบริการ ทำให้มีอนาคตที่สดใส และก้าวหน้าในอาชีพการงานทางสายบริการนี้แน่ๆ แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ต้องตัดสินใจทิ้งอนาคตที่อเมริกา กลับมาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ที่เมืองไทย เนื่องจากมีบุคคลอันเป็นที่รักจากไป ทำให้เริ่มคิด และชั่งน้ำหนักได้ว่าระหว่างงานที่มีอนาคตสดใส กับ เวลาที่จะสามารถอยู่กับคนรัก เราจะเลือกอะไร
เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงกลับมาแล้วก็ได้เริ่มงานร้านอาหารตามความถนัด แต่ด้วยจังหวะและโอกาส เพื่อนนักเรียนไทยที่เคยเรียนมาด้วยกันที่ทำงานอยู่กับไอเอ็มจีอยู่แล้ว แนะนำให้ลองเข้ามาทำงานด้วยกัน และนั่นคือ จุดเริ่มต้นของอาชีพผู้จัดการซุปตาร์
พี่วินกล่าวว่า ความยากของงานนี้ คือ การทำงานกับคน แล้วก็เปรียบเทียบกับหนัง jerry macguire ซึ่งแก่นแท้ของมันคือ personal relationship is everything งานร้านอาหารหรืองานโรงแรม ลูกค้าจะต้องมาก่อนเสมอ แต่ความต่างคือ รายละเอียด เพราะการที่เราดูแลลูกค้าในร้านอาหาร เราจะดูแลแขก เมื่อแขกมาทานอาหาร แต่อาชีพนี้คือ การดูแลลูกค้าครบวงจร โดยไม่เกี่ยงว่าจะต้องทำอะไร พอได้เริ่มมาทำงานนี้ไปเรื่อยๆ ก็ภูมิใจและรักกับงานที่ทำ มันเป็นงานที่เจ๋งมากๆ เพราะ เราได้เรียนรู้ของความคิดของโปรระดับโลกที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งคนทั่วไปไม่สามารถสัมผัสได้ คำบางคำของโปรเหล่านั้น มันโดนใจ และทำให้เข้าใจได้ว่า อ๋อ คนประสบความสำเร็จ มันเป็นแบบนี้นี่เอง นอกเหนือจากนั้นยังทำให้ได้มีโอกาสเจอคนในตำแหน่งใหญ่โต ได้ใกล้ชิด สร้างคอนเนคชั่น แล้วที่สำคัญ การที่ได้อยู่กับบริษัทที่ worldwide อย่างไอเอ็มจี ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าทุกอย่างได้ถูกกำหนดมาแล้ว ถ้าให้ไปทำกับบริษัทแบบไทยๆ น่าจะปรับตัวได้ยาก เพราะเติบโตมาจากเมืองนอก พี่วินออกตัวว่า ตัวเองเป็นคนเล่นกอล์ฟแบบนานๆครั้ง เพื่อนชวนก็ไป และก็พอรู้นักกอล์ฟดังๆบ้าง แต่โดยพื้นแล้ว ก็เล่นกอล์ฟเพื่อนันทนาการ ก่อนที่จะเข้ามาสู่วงการอย่างจริงจัง
เมื่อได้เร่ิมการทำงานที่ไอเอ็มจี ช่วงแรก ความยากของงานนี้ คือ ข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับกอล์ฟในเชิงลึก เช่น การควอลิฟายในทัวร์ต่างๆ (เนื่องจากไม่ได้ดูแลแค่คนเดียว จึงจำเป็นต้องศึกษาทัวร์ใหญ่ๆทั่วโลกทั้งผู้หญิงและผู้ชาย) การทีออฟกับทีไทม์ ทำไมแข่งไม่ตรงกัน แล้วถ้า miss cut ต้องทำอย่างไรต่อ แรงกิ้งอะไร อยู่ที่เท่าไหร่ การจัดการเรื่องวีซ่าและพาสปอร์ต ซึ่งแต่ละทัวร์ก็ไม่เหมือนกัน เราจะมองล่วงหน้ายังไง ให้ทุกคนแฮปปี้ ทุกอย่างที่กล่าวมานี้ คือ การวางแผน เก็บเกี่ยวข้อมูลให้ได้มากที่สุด ก็ต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ พี่วินเอง จะให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์กับผู้เล่นแต่ละคน เพราะแน่นอนว่าทุกคนไม่เหมือนกัน ทุกคนคนมีสไตล์เป็นของตัวเอง และเราก็ต้องเข้าหา โดยสร้างความไว้วางใจ นั่นคือ กุญแจสำคัญในการทำงาน เพราะคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่นกับคนที่ดูแลมีความหมายมากกว่าที่จะคิดว่า นี่คือ งาน เป็นการคอนเวิร์ตความสัมพันธ์ เหมือนรู้จักเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้น เอาใจเค้ามาใส่ใจเรา เพียงแต่สิ่งเหล่านี้กลับกลายมาเป็นงาน และงานที่เรากำลังดีลอยู่นี้ คือ คนที่มีความสำคัญกับประเทศ และระดับโลกซะด้วย
งานส่วนใหญ่ของที่นี่คือ การสร้างคอนเนคชั่น ความสัมพันธ์ที่ต้องติดต่อคน และอีกอย่างการที่ได้อยู่ไอเอ็มจี ก็เป็นแบคอัพสำคัญ ทำให้การสร้างความสัมพันธ์ สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้ตลอดเวลา เพราะบุคคลที่ดูแลอยู่ มีความสามารถอยู่แล้ว บวกกับคอนเนคชั่นส่วนตัวของแต่ละคน ก็ยิ่งทำให้สามารถเข้าไปคุยง่ายขึ้น เมื่อมีโอกาสเข้าถึงบุคคลระดับชั้นนำ ที่เหลือก็เป็นเรื่องของคาแรกเตอร์ล้วนๆ พี่วินเปรียบเทียบเหมือนการรู้จักเพื่อน เราต้องรู้ว่าเพื่อนแต่ละคนต้องการแบบนี้ ชอบแบบนี้ จะเข้าหายังไง รายละเอียดในการเข้าหา ก็ต้องใช้ความพิถีพิถันมากกว่าทั่วๆไปเป็นธรรมดา เพราะเรากำลังดีลกับคนที่มีความสำคัญกับประเทศ ระดับโลก ยกตัวอย่างเช่น การขอรถนำ เราต้องเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างไรไม่ว่าจะเป็นในไทย หรือ ต่างประเทศ อาจจะเริ่มต้นด้วยการคุยกับฝั่งทัวร์นาเม้น แล้วด้วยความที่เป็นไอเอ็มจี การคุยก็ง่ายขึ้น นอกเหนือจากนั้น คอนเนคชั่นส่วนตัวก็มีส่วนสำคัญทำให้งานลื่นไหล เช่น การที่พี่วินโชคดี มีครอบครัวที่ใหญ่ ทำให้กว้างขวางเป็นที่รู้จัก และยังมีเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันไม่ว่าจะอยู่ในไทยหรืออเมริกา แต่ไม่ว่าจะมีเครือข่ายที่ใหญ่ ก็ต้องใช้ความสามารถส่วนตัว เพราะ สไตล์แต่ละคนไม่เหมือนกัน เราต้องอ่านให้ออกว่าเค้าต้องการอะไร ต้องเข้าหายังไง การอ่านคนให้ออกถือว่าเป็นหัวใจสำหรับงานนี้ เพราะเรากำลัง represent คนดังระดับโลกอย่าง โม เม อาร์ม ก็เป็นธรรมดาที่คอนเนคชั่นจะเพิ่มขึ้นง่าย คุยก็ง่าย แต่เมื่อคุยง่าย ก็จำเป็นต้องมีการต่อยอด นั่นทำให้ คาแรกเตอร์มีส่วนช่วยเสริมสร้างการทำงานให้ง่ายขึ้น เพราะอย่างที่รู้กันว่า เมื่อสร้างคอนเนคชั่น นั่นหมายถึง โอกาสในการหาสปอนเซอร์ให้กับนักกีฬาที่เราดูแล คอนเนคชั่นที่มีอยู่ก็มีอยู่แล้ว และแน่นอนว่าถ้าผู้เล่นมีเกมส์การเล่นที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เราก็จำเป็นต้องต่อยอด จากสิ่งที่มี แล้วถ้าจะต่อ แล้วต่อยังไง ต่อแบบไหน โดยสิ่งที่เราทำไป เราไม่รู้หรอกว่าทำไปถูกรึเปล่า แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องท้าทาย และรู้สึกชอบงานนี้จังเลย เรื่องดีหรือไม่ดีก็ ต้องน้อมรับคอมเม้นจากหัวหน้างาน และ บุคคลรอบข้างพี่วินยังกล่าวว่า แม้จะรักอาชีพนี้ขนาดไหนก็ตามแต่ เงินก็เป็นปัจจัยส่วนหนึ่ง เพราะไม่ได้ตื่นมาแล้วมีความสุขทุกวัน เนื่องจากคนที่เราดีลด้วย เป็นคนที่มีความสำคัญระดับโลก ประสบการณ์ที่เคยผิดพลาดมา ก็มักจะนำมาซึ่งบทเรียทที่ดีเสมอ ทุกอย่างมีความท้าทายอยู่ตลอดเวลา เราก็ต้องเรียนรู้ว่าเมื่อไหร่ควร เซเยส หรือ เซโน ซึ่งถามว่าเป็นอุปสรรคมั้ย มันไม่ใช่ แต่เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับนักกีฬา และแน่นอนว่าการทำงานทุกอย่าง ย่อมเกิดข้อผิดพลาด ก็ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสเสมอ และยังคงเชื่อมั่นในตัวเรา
ผู้เขียนเองได้มีโอกาสถามว่า แล้วการทำงานกับแต่ละคนเป็นยังไงบ้าง
พี่วินกล่าวว่า ทั้งสี่คน สามารถคุยได้ทุกเรื่อง อย่างโปรธงชัย จะมีแกปหน่อย เพราะแกเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ถ้าเป็นอาร์ม หรือ โมเม ก็อาจจะมีเรื่องที่นอกเหนือจากสโคปงานบ้างเป็นบางที
โปรช้าง ธงชัย ใจดี นามสกุลใจดี คือ ใจดีจริงๆ เพราะเป็นผู้ให้ตลอดเวลา เป็นคนที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง เป็นคนที่อยู่ในวงการมานานมาก และเราต้องรู้จักเข้าหาและให้ความสำคัญกับรายละเอียดต่างๆ อย่างไรก็ตาม โปรช้าง ก็มักให้ข้อคิดนำมาปรับใช้ชีวิต อยู่เสมอ
ส่วน อาร์ม จะมีอารมณ์ willing to work คนจะรักอาร์มเยอะ เพราะอาร์มเป็นคนง่ายๆ ไปไหนไปกัน เพราะทุกอย่างมาจากความเข้าใจ และมีที่มาที่ไป ประโยคที่อาร์มมักจะเรียกสปอนเซอร์อยู่เสมอ คือ คำว่า นาย ผู้ใหญ่ก็จะรักและเอ็นดูอาร์มกันทุกคน แอตติจูดและความทะเยอทะยานที่จะฝันใหญ่ มันสามารถพาอาร์มไปในจุดที่ตั้งใจไว้ได้ ก็ต้องให้เครดิตกับครอบครัวที่คอยผลักดันมาตั้งแต่เด็กจนโต ซึ่งแม้ว่าตอนนี้อาร์มจะประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้แล้ว แต่อาร์มเองก็ไม่ลืมที่จะทดแทนบุญคุณกับโปรผู้ล่วงลับ ที่เคยฝึกซ้อมกันมาสมัยเยาวชน โดยการซื้อกิจการสนามไดร์ฟกอล์ฟ สนับสนุนพัฒนาสร้างเด็กในทีม
มาถึงในส่วนของการทำงานคู่กับพี่น้องมหัศจรรย์ โมจะเป็นทำอะไรตามลอจิก ส่วนเมจะทำทุกอย่างตามอารมณ์ ขนาดพี่น้องคู่ถูกเลี้ยงและ เติบโตมาด้วยกัน แต่ความสำเร็จแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คนหนึ่งเป็นคนมีเหตุผล แต่อีกคนหนึ่งใช้อารมณ์ มีความเป็นศิลปิน ทุกวันนี้ทั้งคู่มีโค้ชจิตวิทยาเข้ามาช่วยเติมเต็ม ก็ทำให้ทั้งคู่พัฒนาขึ้นได้อย่างก้าวกระโดดและมีความสม่ำเสมอมากขึ้น ที่สำคัญคือ ทั้งสองคนนี้ไม่หยุดเรียนรู้ โมจะเป็นคนอดทน และหากเชื่อว่าสิ่งที่ทำนั้นถูก ก็จะทำต่อไป จนรอวันเพย์ออฟ (ซึ่งวันที่โมชนะ ก็เพิ่งผ่านมาไม่นานนี้เอง) โมค่อยๆไต่แรงกิ้งขึ้นมาเรื่อยๆ จนตอนนี้อยู่หนึ่งในสิบ ส่วนเมน้องสาวอยู่อันดับสอง (ณ วันที่เขียน) ถ้าดูผลงานภาพรวมแล้ว แรงกิ้งโลกถ้านับจากฟอร์มการเล่นจริงๆ เมนำที่หนึ่งทุกลิสต์ โมที่สองด้วยซ้ำ ทางไอเอ็มจี ไม่ได้เซอไพรส์เลย ถ้าเมย์จะเป็นมือหนึ่งของโลก ประเทศไทย คุณเจอซุปเปอร์สตาร์แล้ว ที่ไม่รู้ว่าอีกกี่ปีจะเจออีกบนโลกใบนี้ ซึ่งก็ต้องยกเครดิตให้พ่อแม่โมเม มากๆ เพราะเค้าวางรากฐานไว้ได้ดี เด็กทั้งสองคน ต้องผ่านความโหดร้าย อุปสรรคขวากหนามมาเยอะมาก กว่าจะชนะ ต้องซ้อมทั้งชีวิต ทุกอย่าง ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย เราจะได้เห็นธงไทยอยู่ไปอีกนานแน่ๆ ซึ่งตอนนี้เม ก็ทำเงินมาแล้วกว่า หกล้านเหรียญ ยังไม่นับเงินจากสปอนเซอร์ที่ถ้าหากเปิดเผย หลายคนคงจะตกใจมากว่ามากมายขนาดไหน นี่ขนาดไม่ได้มีสปอนเซอร์อุปกรณ์เหมือนเราซุปตาร์ระดับโลกมาสนับสนุน ลองคิดดูว่า ถ้ามีอุปกรณ์กีฬามาดีลคู่พี่น้องสองคนนี้ ก็คงไม่ต่างอะไรกับคู่นักเทนนิสพี่น้องอย่างวีนัสและเซเรน่า วิลเลี่ยมเป็นแน่ แต่เนื่องจากโมเมเป็นผู้เล่นที่เปลี่ยนอุปกรณ์ไม่มาก อย่างเก่งเปลี่ยนแค่ก้าน จึงยังคงไม่ได้อุปกรณ์กอล์ฟมาเป็นสปอนเซอร์อย่างจริงจัง แต่เราก็ยังคงต้องรอดูกันต่อไป
พี่วินกล่าว การเลือกแคดดี้ให้เหมาะกับนักกีฬา ก็เป็นสิ่งสำคัญ ทั้งโมเม โปรช้าง ต่างก็ใช้แคดดี้มืออาชีพชาวต่างชาติ ซึ่งตอนนี้เจอแคดดี้ที่ใช่แล้ว ตั้งแต่วันที่ยังไม่ได้อะไร จนประสบความสำเร็จ แคดดี้จะมีรายได้จากเจ้านายที่ดี เจ้านายไม่มีแคดดี้ที่ดีก็ไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้นแคดดี้ก็ต้องเชื่อมั่นในตัวเจ้านายด้วย ทุกอย่างต้องควบคู่กันไป
ส่วนในเรื่องการวางแผนโปรโมท จัดระเบียบการวางตัวของนักกีฬา ต้องเตรียมตัว และทำอะไรบ้าง
พี่วินตอบเลยว่า เราจะไม่ควบคุมนักกีฬา เค้าเป็นตัวของเค้าเอง ส่วนเราคือฝั่งซัพพอร์ตเค้า ไม่ใช่การควบคุม เพราะสุดท้ายแล้วเค้าต่างหาก คือ คนกำหนดภาพลักษณ์ด้วยตัวเค้าเอง ว่าอยากจะให้คนเห็นเค้าแบบไหน แต่หากนักกีฬามาปรึกษาในเรื่องการเรียงคำพูด วิธีการวางตัว หรือ เรื่องปลีกย่อยต่างๆ เราก็สามารถไกด์ไลน์เค้าว่าควรจะพูดอะไรบ้าง
การทำงานของพี่ส่วนใหญ่อยู่ที่ไทย แต่ถ้ามีนักกีฬาคนไหนรีเควส ก็ต้องพร้อมที่จะไปได้ตลอดเวลา อย่างปีที่ผ่านมา เดินทางเข้าออกไทยประมาณสิบกว่าเที่ยว ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น การเดินทาง ของพี่วิน ก็จะขึ้นอยู่กับการแข่งขันในปีนั้นๆของแต่ละคน ฟอร์มการเล่น ทุกอย่างจะมีการวางแผนล่วงหน้าอย่างคร่าวๆ เพราะถึงแม้ว่า วางแผนล่วงหน้าเป็นปี แต่ปัจจัยก็ขึ้นอยู่กับผลงานและฟอร์มการเล่น ณ ตอนนั้น ซึ่งยังไงก็ต้องแก้ไขที่หน้างานอยู่ดี เช่น ต้องใช้วีซ่าอะไร ประเภทไหน เราสามารถแอพพลายเองได้หรือไม่ หรือต้องใช้เอเจน ต้องจัดตารางล่วงหน้า วางแผน หากพาสปอร์ตหมดอายุต้องทำยังไง เวลาอยู่ต่างประเทศ บางที่ต้องคิดที่จะเอาตัวนักกีฬา เข้าไปอยู่ประเทศนั้นๆก่อนที่จะขอวีซ่าที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะตัวที่ต้องคิดให้ได้ภายใต้ความกดดันในเวลาที่จำกัด บางทีขอวีซ่าไม่ทัน ก็ต้องปรับเปลี่ยนแผนการ แต่สิ่งที่โชคดี คือ มีทีมงานที่ดีคอยช่วยเหลือด้านเอกสาร เพราะอย่างที่ทราบกันว่าหลายปีที่ผ่านมา โปรช้าง และโปรอาร์มจะไปเล่นยุโรป จึงมีการเดินทางเยอะ เรื่องเอกสารวีซ่า พาสปอร์ต ต้องพร้อมเสมอ
ส่วนเรื่องเวลาส่วนตัว ก็บอกได้เลยว่ากระทบแน่นอน คนในครอบครัว ต้องอาศัยความเข้าใจมากๆที่เราอยู่ตรงจุดนี้ เช่น ถ้าเราอยู่กับแฟน แล้วมีโทรศัพท์จากโปรโทรมา นั่นหมายความว่าลูกค้าต้องมาก่อนแฟนเสมอ และแฟนก็ต้องเข้าใจมากๆกับตรงนี้ด้วย แต่ที่น่าดีใจคือ ครอบครัวกลับกลายเป็นแฟนพันธ์แท้กีฬากอล์ฟไปแล้ว เพราะครอบครัวพี่วินเอง ก็เรียนรู้และปรับตัวไปพร้อมๆกัน
หลายคนอาจสงสัยว่า ในส่วนขอโมเม ที่อยู่อีกซีกโลกหนึ่งฝั่งอเมริกา จะดูแลได้อย่างไร เมื่อตัวพี่วินเองก็อยู่ที่ไทย แค่โปรช้างและโปรอาร์มเล่นอยู่ยุโรป งานก็รัดตัวแล้ว ดังนั้นพี่วินก็จะมีความใกล้ชิดและคอนเนคชั่นทางฝั่งยุโรปมากกว่า ทางฝั่งอเมริกา ซึ่งไอเอ็มจีก็จะส่งพี่วินไปดูแลนักกีฬา แต่อย่าลืมว่า ไอเอ็มจี เป็นบริษัทแม่ที่มีเครือข่ายกว้างขวางไปทั่วโลก เพราะฉะนั้นแน่นอนว่ามีเหล่าซุปตาร์มากมายในหลากหลายวงการอยู่ในความดูแลภายใต้สังกัดนี้ รวมทั้งโปรกอล์ฟผู้หญิงดังๆ แทบทุกคน ก็อยู่ไอเอ็มจีหมด ทางพี่วินจึงต้องฝากผู้จัดการทางฝั่งอเมริกาดูแลโมเมอีกที ไอเอ็มจีเองก็จะถูกแบ่งเป็นผู้จัดการกลุ่มโซนย่อยๆ เช่น กลุ่มดูแลคนอเมริกัน กลุ่มดูแลคนเอเชีย กลุ่มดูแลคนเกาหลี
ไอเอ็มจี ที่เข้ามาในประเทศไทย จะแบ่งเป็นสองทีม คือ ส่วนอีเว้น event และ ส่วนไคลเอ้น client
ซึ่งพี่วินจะอยู่ในส่วนของ client เป็นคนดูแลและรักษาผลประโยชน์ให้ผู้เล่น โดยตำแหน่ง คือ client manager and service หรือเรียกง่ายๆคือ ผู้จัดการนักกีฬา นั่นเอง ในส่วนของการหาสปอนเซอร์นั้น ถือเป็นหนึ่งในหน้าที่หลัก แต่ก็จะมีช่วยเหลือทางฝั่งอีเว้นบ้าง เช่น รายการฮอนด้าแอลพีจีเอ เพราะเป็นรายการใหญ่ และ ผู้จัดการนักกีฬาไอเอ็มจีหลายๆประเทศ ก็จะฝากทางพี่วินช่วยเหลือ เพราะถือว่าเป็นเบสที่เมืองไทย
ในส่วนของ client manager ก็ต้องมีการจัดการหลังบ้านทั้งหมดในเรื่องของเอกสารด้วย ซึ่งพี่วินก็จะสนิทกับผู้เล่น มากกว่า และเป็นส่วนหนึ่งของการหาสปอนเซอร์ ซึ่งนั่นคือ จุดประสงค์หลักในหน้าที่นี้ ว่ากันง่ายๆ ก็คือ การหาเงินเข้าบริษัท เป็นเรื่องหลัก ส่วนการแบ่งรายได้จากสปอนเซอร์ให้นักกีฬา เป็นเรื่องของข้อตกลงรายคนไป รายได้ที่นักกีฬาหาได้จากการแข่งขัน จะเป็นของนักกีฬาและเข้าส่วนตัว ส่วนเงินจากสปอนเซอร์ที่ไอเอ็มจีหาได้ ไอเอ็มจีก็คิดเปอร์เซ็นตามข้อตกลงที่กล่าวไว้เบื้องต้น แล้วก็จัดตั้งบริษัท หรือเข้ามูลนิธิ แน่นอนว่า ไอเอ็มจีจะพึ่งพาแต่รายได้ตรงนี้เป็นรายได้หลัก เพราะฉะนั้นเราต้องเชื่อมั่นในความสามารถของนักกีฬา และแน่นอนว่าจะต้องมีทีมไอเอ็มจี มีทีมงานหานักกีฬาที่มีความสามารถ ซึ่งตรงจุดนี้เอง หากทางทีมสนใจคนไทยเพื่อเข้าสังกัด พี่วินจะเป็นผู้ที่ให้ข้อมูลทั้งหมดแก่ทีมคัดสรร ซึ่งพี่วินกล่าวว่า เรื่องหลักๆจะดูจากผลงานทั้งหมดที่ผ่านมา ซึ่งถ้าเรารู้ว่าคุณทำได้ เราเข้าหาคุณแน่ ทำให้การคัดเลือกนักกีฬานั้น ถือว่าเป็นด่านหินมากๆ เพราะอย่าลืมว่า ไอเอ็มจี มีแหล่งรายได้จากการหาสปอนเซอร์ให้นักกีฬาในสังกัดเท่านั้น นั่นหมายความว่า เราต้องมั่นใจคุณมากแน่นอนก่อนที่จะจับเซ็นต์สัญญา ยกตัวอย่างว่า หากมีนักกีฬาชั้นนำ ฟอร์มตก หมายความว่า สปอนเซอร์เก่า ก็อาจจะยังคงต่อสัญญาไปเรื่อยๆ แต่แน่นอนว่าจะไม่มีสปอนเซอร์ใหม่เข้ามาอยู่แล้ว เราไม่ได้เงินจากคุณ อันที่จริงแล้ว เราทำงานให้คุณฟรีๆ ซึ่งนักกีฬาไทยทุกคนตอนนี้ สปอนเซอร์ทั้งหมดจะมาจากไทยซะส่วนใหญ่ โดยเฉพาะแบรนด์ใหญ่ๆ ก็จะสนิทกับไอเอ็มจีหมด ดังนั้น เราจึงรู้ว่า ค่าตัวของนักกีฬาเราอยู่ประมาณไหน สามารถประเมินค่าได้ว่า หากมือระดับเท่ากัน คนหนึ่งอยู่ในสังกัด แต่อีกคนไม่อยู่ แล้วไม่มีข้อมูลอย่างเรา ก็จะถูกเซ็นสัญญากับเงินก้อนหนึ่ง ในขณะเดียวกันเมื่อเทียบกับคนที่อยู่ในสังกัด แต่ฝีมือเท่ากัน เค้าจะได้ในอีกราคาหนึ่งที่สูงกว่ามาก ซึ่งผู้ที่ไม่รู้จริงก็มักจะถูกเอาเปรียบ เพราะไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริงว่า ในวงการนี้ มูลค่าค่าตัวของนักกีฬานั้น เยอะแค่ไหน นอกเหนือจากค่าตัว ยังมีในเรื่องของ เบเนฟิตต่างๆที่จะได้ การได้รับยกเว้นรายการแข่งขันต่างๆ ข้อได้เปรียบต่างๆ เหล่านี้ ก็ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ เพราะต้องมีเทคนิค แทคทิคของผู้จัดการที่ต่างกันออกไป เพื่อที่จะให้เกิดโอกาสสูงสุดและเป็นประโยชน์ต่อนักกีฬาในสังกัดให้มากที่สุด สุดท้ายก็วนกลับมาที่ประโยคเดิมคือ การปกป้องผลประโยชน์ของนักกีฬา แต่ด้วยอะไรต่างๆทั้งหลายทั้งมวล ปัจจัยหลักที่แท้จริง นอกเหนือจากโอกาสที่เข้ามา นั่นคือ ความสามารถที่แท้จริงของนักกีฬา ที่เป็นตัวบ่งชี้สำคัญว่า จะสามารถสร้างโอกาสนั้นๆได้หรือไม่ ยิ่งคุณดัง สปอนเซอร์ก็จะวิ่งเข้ามาหาคุณ
คิดว่าใครจะเป็นซุปตาร์คนต่อไปที่จะเข้ามาอยู่ในสังกัดไอเอ็มจี
ในส่วนผู้ชายมี หลายคนที่แอพโพรช เพื่ออยากที่จะเข้ามาอยู่ แต่ทางไอเอ็มจี มักจะรอโอกาส จังหวะ เวลาที่เหมาะสม ไม่ว่าจะในเรื่องของระดับฝีมือ outstanding แค่ไหน ผลงานที่ผ่านมา บางคนควอลิฟายเพิ่งเข้าทัวร์ใหญ่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ไอเอ็มจีจะเล็งเห็นผลงานล่าสุดเท่านั้น ก็ต้องดูประวัติการเล่นที่ผ่านมา การวางตัว นิสัย ใจคอ สปอนเซอร์ที่ติดตัวมา ในส่วนของผู้หญิงนั้น ทางไอเอ็มจีได้เล็งไว้แล้วว่าจะเป็นใคร แต่จะขอเอาให้มั่นใจทั้งสองฝ่ายก่อนแล้วค่อยประกาศ
อย่างไรก็ตาม สปอนเซอร์บางรายมีการให้อุปกรณ์ นักกีฬาในสังกัด โดยที่ไม่ได้ผ่านทางไอเอ็มจี ซึ่งถือว่าผิด แต่บางทีการที่อยู่ในสังคมไทย เรื่องบางเรื่องก็จำเป็นต้องมองข้ามไปบ้าง เพราะ หลายอย่างจะมีผลต่อสถานะทางสังคม ทางพี่วินซึ่งเป็นผู้จัดการนักกีฬาเอง ก็ต้องเป็นคนระแวดระวัง คอยดูแลผลประโยชน์ของนักกีฬา ซึ่งบางทีก็เปรียบตัวเองเหมือนเป็นเลขาส่วนตัว เพราะบางทีการแยกระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว แทบจะไม่มีเมื่อต้องดูแลนักกีฬาระดับวีไอพี กาให้ความสำคัญกับคำว่า relationship สำคัญที่สุด ถ้าเราพูดว่า นี่ไม่ใช่เรื่อง หรือ หน้าที่ของเรา ก็จะกลายเป็นว่า การทำงานจะเริ่มยากขึ้น พี่วินยังกล่าวว่า ทุกอย่างที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นงานโรงแรม ที่เคยทำ โอกาส จังหวะ มันจะมาพร้อมกัน ทำให้ได้มาทำงานที่ดีที่สุดตรงนี้ งานนี้ อาจจะไม่ต้องการคนเก่ง แต่เป็นงานที่ต้องอาศัยคนเข้าใจในเนื้องานที่แท้จริง เพราะฉะนั้นงานที่เราดูแลซุปตาร์เหล่านี้ personal relationship is everything เพราะนักกีฬาเหล่านี้ ต้องทิ้งชีวิตสามัญชน เพื่อที่จะไปตามความฝัน ไม่มีคำว่าฟลุ๊ค คนที่เกิดมาเป็นนักกีฬาในประเทศไทย ถือว่าโชคไม่ดี เพราะถ้าคุณไปไม่ถึงที่สุด คุณกลับมาก็จะโดนคนเหยียบย่ำ ทุกครั้งที่เห็นนักกีฬาชนะ พี่วินเองจะภูมิใจ และรู้สึกว่าได้มีส่วนร่วมในความสำเร็จนั้นๆ ถึงไม่มีพี่วิน เค้าก็ชนะ แต่ในความเห็นส่วนตัวของดิฉันๆเชื่อว่า ถ้าไม่มีจิ๊กซอ หรือ ฟันเฟือง ตัวสุดท้ายนี้ ภาพความสำเร็จ ก็คงไม่สมบูรณ์แบบอย่างแน่นอน
Comments