กฎ 5 ข้อ ในการหาเทรนเนอร์ฟิตเนสสำหรับกอล์ฟ
- oilhath
- Feb 15, 2019
- 1 min read

สวัสดีปีใหม่ค่ะท่านผู้อ่าน ในปี 2018 นี้ ดิฉันอยากจะพูดถึงเรื่องกอล์ฟให้เข้มข้นมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ที่จะเจาะลึกและหลากหลายทุกมุมของกีฬากอล์ฟ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเกมส์การเล่น โภชนาการ ฟิตเนสเทรนนิ่ง จิตวิทยาในเรื่องกอล์ฟ หรือ แม้กระทั่งบันทึกการแข่งขันที่ดิฉันเองเข้าร่วม โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยเป็นแนวคิดให้ท่านนักกอล์ฟหลายๆคน ได้นำไปประยุกต์ใช้ไม่มากก็น้อย
เริ่มแรกของปีดิฉันอยากพูดถึงเรื่องการออกกำลังกายสำหรับกีฬากอล์ฟซะหน่อยค่ะ ดิฉันเป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่เข้ายิมเป็นประจำพอสมควร ไม่ว่าจะในระหว่างแข่งขันหรือหยุดการแข่งขัน ก็จะออกกำลังอย่างต่อเนื่อง ว่ากันง่ายๆคือ ชอบเข้ายิม เพราะด้วยความที่เป็นคนตัวเล็ก จึงอยากที่จะเพิ่มอะไรบางอย่างให้มากกว่าคนอื่นๆ โดยเมื่อสิบกว่าปีก่อน คงไม่มีเด็กผู้หญิงมัธยมปลายคนไหนที่บ้าไปออกกำลังกับนักกล้าม ดิฉันก็ทำมาแล้ว เลยทำให้โชคดีมาถึงปัจจุบันเพราะเค้าได้สร้างพื้นฐานบางอย่าง ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บน้อยกว่านักกีฬาทั่วไป แต่พอได้เล่นเวดจ์ทำตามโปรแกรมมาถึงจุดหนึ่ง แม้ว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่เรามาหาผู้รู้เกี่ยวกับกล้างเนื้อและสร้างรากฐานได้ดี แต่ประเด็นคือ เราต้องการสร้างกล้ามเนื้อเพื่อเล่นกอล์ฟ ปัญหาคือ อาชีพของโค้ชคนนี้ คือ การสร้างนักเพาะกาย ไม่ได้สร้างนักกีฬากอล์ฟอาชีพ จึงสะเปะสะปะเล่นเองอยู่พักใหญ่ มีการกลับไปหาโค้ชคนนี้บ้าง แต่บอกเลยว่า เป็นการออกกำลังที่หนักมากจริง เพราะเค้าจะดูเรื่องอาหารการกิน ให้ทานวันละ 5 มื้อ ตอนเช้าทานข้าวโอ๊ต กับ ไข่ต้ม (ทานแต่ไข่ขาว) วันละ 4 ฟอง ระหว่างมื้อเช้ากับมื้อกลางวันทานผลไม้ หรือโปรตีนเสริม กลางวันทานคาร์โบไฮเดรตกับโปรตีนผสมกัน ระหว่างมื้อกลางวันกับมื้อเย็นทานผลไม้ หรือโปรตีนเสริม และเย็นให้ทานไฟเบอร์ซะเยอะ เรียกว่าเป็นอาหารคลีนสำหรับนักกีฬาจริงๆ แต่อย่างที่บอกค่ะ เทรนกับอาชีพไหน ก็จะหนักไปทางนั้น เคยเหมือนกันที่ไปเทรนกับโค้ชฟิตเนสแถวอโศก ซึ่งก็ดูเหมือนจะได้ผล แต่ราคาแพงเอาเรื่องเลยค่ะ เลยสงสัยว่า เราจะเน้นไปทางกอล์ฟหรือฟิตเนสกันแน่ จึงตัดสินใจเทรนตัวเองเท่าที่รู้ และ วนลูปอยู่กับการหาเทรนเนอร์เรื่องกอล์ฟมาหลายปี เพื่อที่จะเพิ่มมวลร่างกาย แต่สุดท้าย ก็ไม่ได้โปรแกรมอย่างที่ตัวเองตั้งใจค่ะ ส่วนใหญ่ จะเป็นคนที่รู้ทักษะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ไม่รู้จักกีฬากอล์ฟจริงๆ จนกระทั่งสามปีก่อน ได้รู้จักโปรแกรมที่เรียกว่า Functioning ซึ่งบอกเลยนะคะ ว่า ณ ปัจจุบัน เป็นโปรแกรมที่เหมาะสมกับนักกีฬากอล์ฟที่สุดแล้วซึ่งไม่ว่าจะเป็น Lexi Thompson, Justin Thomas หรือนักกอล์ฟวัยรุ่นชื่อดังหลายๆคน ก็ใช้โปรแกรมนี้กันทั้งนั้น ที่จะใช้บอดี้เวดเป็นหลัก มีเวดหนักบ้าง เพิ่มสปีดได้แต่จะไม่หนักจนเกินไปจนซ้อมไม่ได้ (ซึ่งดิฉันเคยอยู่ในสภาพที่เล่นเวดจ์จนซ้อมกอล์ฟไม่ได้มาแล้ว ไม่ควรเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ)
ซึ่งคนที่จะมาสอนคุณๆได้นั้น ควรจะต้องมีความรู้พื้นฐานของกล้ามเนื้อพอสมควร เช่น เคยเป็นนักกายภาพ หรือ เรียนวิทยาศาสตร์การกีฬามา และต้องมีประสบการณ์ในการปรับใช้โปรแกรมกันเป็นคนๆนะคะ เพราะร่างกายแต่ละคนมีจุดแข็งจุดด้อยต่างกัน โค้ชคนนั้นต้องรู้ดีว่าร่างกายเราต้องการเพิ่ม หรือ ลดส่วนไหนเป็นพิเศษ เทรนเนอร์บางคน ต่อยอดเพิ่มใบประกาศเอง เช่น ในสมัยนี้ โค้ชทีพีไอ มีให้เห็นเพียบเลยค่ะ แต่ระยะเวลาในการอบรมสั้น และ ถ้ามีสตางค์ ก็สามารถไปอบรมแล้วมาสอนได้ อยากให้พิจารณาให้ดี ก่อนเลือกเทรนเนอร์ หลายคนเก่งเรื่องการทำการตลาดกับนักกอล์ฟที่มีชื่อเสียง หลายคนเป็นคนเก่ง แต่ไม่สามารถแสดงศักยภาพออกมาได้เต็มที่ บางคนมีประสบการณ์ในการทำนักกอล์ฟ แต่ไม่ได้เข้าใจกอล์ฟอย่างลึกซึ้ง หลายคนเป็นโปรกอล์ฟ แต่มาสอนฟิตเนส หรือบางคนเป็นคนเก่งมาก และเข้าใจลึกซึ้ง แต่ไม่สามารถให้เวลาเราได้ ก็ไม่สามารถทำให้เราพัฒนาขึ้น หลากหลายกันไป อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า ดิฉันก็เป็นหนึ่งในคนที่อยากจะพัฒนาทั้งร่างกายและยกระดับจิตใจให้ตีกอล์ฟได้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น การหาคนที่เหมาะสมในเรื่องฟิตเนส เป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญมากสำหรับนักกีฬาอาชีพ
หากคุณเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่น แล้วอยากฟิตเนส แต่ไม่รู้จะเลือกใครมาสอนเราดี มีหลักการง่ายๆดังนี้ค่ะ
หนึ่ง เทรนเนอร์คนนั้น ต้องตีกอล์ฟเป็น ไม่จำเป็นต้องตีดี แต่ต้องเข้าใจว่ากอล์ฟคืออะไร ใช้กล้ามเนื้อส่วนไหนเป็นหลัก
สอง อย่าดูแค่ใบประกาศ เพราะใครๆก็ไปอบรมได้ ถ้ามีสตางค์ ขอให้ดูเป็นตัวประกอบก็พอว่า เค้าพอมีความรู้ด้านไหน เพราะประเด็นหลักคือการนำมาใช้ มากกว่าทฤษฎี และการมีใบนั้นไม่ได้การันตีว่าจะนำมาทฤษฎีนั้นๆมาใช้ได้ แต่การมีใบเป็นแค่หลักประกันว่า เค้าคนนั้นได้รับรู้ถึงความเป็นมาแล้วเท่านั้น
สาม เทรนเนอร์หลายคนเก่งด้านพีอาร์ มาร์เก็ตติ้ง หลายคนอาจเทรนนักกอล์ฟคนดังมามากมาย โดยเห็นผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ขอรับรองเลยว่า เบื้องหลังของนักกีฬาดังๆ มีอะไรหลายอย่างที่ไม่ได้เอาลงในโซเชียลนะคะ มันคือ เคล็ดลับ ของใครของมัน และเคล็ดลับเหล่านี้เอง ที่ทำให้พวกเค้าแตกต่างจากนักกีฬาทั่วไป ดังนั้น แค่การถ่ายรูปลง ไม่ได้หมายความถึงทุกสิ่งอย่าง
สี่ เทรนเนอร์ที่ดี จะไม่โอนอ่อนตามคำเรียกร้องขอลูกค้า แต่เค้าจะดูตามสภาพร่างกายของคุณขณะนั้นว่าไหวหรือไม่ และในคลาสแรก ควรจะต้องมีการทดสอบความสามารถของร่างกายให้คุณด้วย
ห้า หาเทรนเนอร์เหมือนการหาบัดดี้คู่ใจ เพราะเค้าจะต้องเอาใจใส่คุณ ไม่ชวนคุณคุยเพื่อให้หมดเวลาไปวันๆ หรือ มีการสอบถามหลังจากคุณเล่นเวดจ์เสร็จว่าร่างกายคุณโอเคมั้ย นั่นเป็นสิ่งสำคัญมากๆอย่างหนึ่ง ที่จะไม่ค่อยเห็นในฟิตเนสตามห้างใหญ่ดังๆ ที่เทรนเนอร์ เปรียบเสมือนการสร้างยอดเซลล์ให้บริษัท มากกว่า บริการลูกค้าอย่างจริงใจ
หากท่านนักกอล์ฟอยากเอาชนะเพื่อนร่วมก๊วน การเข้ายิมมีเทรนเนอร์ซักสองถึงสามวันต่ออาทิตย์ ก็ไม่เลวนะคะ เพราะจะช่วยให้ท่านนักกอล์ฟ มีกำลังอึดในการออกรอบได้มากกว่าเพื่อนๆ ทั้งนี้ ในเมืองไทย แค่จะหาคนเฉพาะทางก็แสนยาก เลยอยากแนะนำให้หาเทรนเนอร์เพื่อสร้างพื้นฐานให้ตัวเองก่อนเพราะก่อนเร่ิมเทรนอย่างจริงจัง เทรนเนอร์ที่ดีทุกคนจะเริ่มสร้างจากพื้นฐาน เพื่อไม่ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บในอนาคต ดังนั้นการเริ่มจากที่ๆใกล้บ้านท่าน สะดวกในการเดินทาง จะช่วยให้ท่านนักกอล์ฟไปเข้ายิมได้บ่อยขึ้น แล้วครั้งต่อไปดิฉันจะมาเจาะลึกถึง Functioning Program และการผสมผสานการออกกำลังระหว่างการเล่นเวดจ์ กับ คาร์ดิโอ นะคะ แล้วเจอกันเดือนหน้าค่ะ

Comments