top of page

บันทึกการเดินทาง The Masters 2017

  • Writer: oilhath
    oilhath
  • Apr 30, 2017
  • 3 min read

Date: 2 - 9 April 2017

เตรียมตัวก่อนเดินทาง

การจองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม จองรถ ในช่วงเทศกาลหยุดยาวของบ้านเราเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าจะสูงกว่าปกติ ไม่นับรวมถึงรายการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดรายการหนึ่งของโลกอย่างเดอะมาสเตอร์ด้วยก็เช่นเดียวกัน เพราะการมาที่เมืองออกัสต้า ถือเป็นเมืองเล็ก ค่าใช้จ่ายสูงอยู่แล้ว นักกอล์ฟและผู้ชมส่วนมาก ก็จะบินไปลงที่เมืองแอตแลนต้า แล้วเช่ารถขับมาประมาณสองชั่วโมง จะดีกว่า สายการบินที่บินมาลงที่เมืองนี้จากไทย ก็จะมี 3 สาย หลักๆ นั่นก็คือ Korean Air, KML, Turkish Airline จึงแนะนำว่า หากใครอยากมารายการนี้ ควรจะมาแต่เนิ่นๆ จะได้ราคาที่ดีกว่า ส่วนโรงแรมไม่ต้องพูดถึง เพราะคนส่วนใหญ่ก็จะจองโรงแรมข้ามปีกันเลยทีเดียว

Sunday 2nd Apr’17

เป็นอีกหนึ่งวันที่อากาศแจ่มใส พอขึ้นรถก็รีบตั้งจีพีเอส ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงจากแอตแลนตา แล้วก็ติดตั้งกล้องติดรถยนต์ หลังจากนั้นก็ออกเดินทาง ประมาณสิบโมง ระหว่างทาง ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ แค่ต้องขับประมาณ 60-80 ไมล์ การขับรถที่อเมริกาเป็นอะไรที่ง่ายๆ เพราะทุกคนทำตามกฎระเบียบ แต่ก็ต้องมีเรื่องให้คอยระวังอยู่ตลอดเหมือนกัน ซึ่งใช้เวลาเกือบเที่ยงกว่าจะไปถึง ระหว่างทางก็ได้ใช้บริการถนน Bobby Jones express way โดยด่านสุดท้าย จะออกที่ทางออก 199 Augusta พอลงแล้วก็เตรียมเลี้ยวขวาที่ Washington Rd สองข้างทางจะเต็มไปด้วย ร้านต่างๆนานา โรงแรม และ เมื่อใกล้ถึงสนามรถจะค่อนข้างแน่น เพราะผู้คนเริ่มทยอยมา เรามาในฐานะมีเดีย เลยได้อภิสิทธิ์เข้าประตูห้า ซึ่งจะเลยแท้งน้ำด้านขวามือเพียงนิดเดียว สุดท้ายก็เลยจนได้ เพราะประตูทางเข้าเลยสี่แยกไปเพียงนิดเดียว เลยไปวนอ้อมกลับมา เราเตรียมตัวมามีบัตรจอดรถของมีเดีย ก็เข้ามาได้สบายๆ ลานจอดรถกว้างมาก และมียามผู้หญิงโบกให้เราจอดประมาณสามสี่คน โชคดีมีที่จอดไม่ไกลจากประตูทางเข้า ก็เดินเข้าไปได้สบายๆ เราก็แบกของมาเยอะแยะ เตรียมเอกสาร มีรปภประมาณ หกเจ็ดคนในเต๊นท์เล็กๆ ด่านแรกต้องผ่านสแกนสองครั้วด้วยกัน แต่ต้องรื้อกระเป๋าให้ดูด้วย ด่านสองคือเช็กบาร์โค้ดของเรา ซึ่งเราก็บอกไปว่ายังไม่ได้ลงทะเบียน เลยยื่นใบตอบรับอีเมล จากนั้นเค้าก้อสแกน ทุกอย่างดูรัดกุมมาก ซึ่งทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ภาพที่เห็นหลังผ่านรปภ คือ สนามหญ้าสีเขียว และตึกใหญ่สีขาวหลังต้นไม้ใหญ่ที่ดูร่มรื่น จากนั้นก็เดินข้ามถนนเล็ก โดยมียามคอยโบกให้ตลอดเวลา ตามจุดต่างๆ พอถึงหน้าประตูก็มียามผู้หญิงเปิดประตูให้ โต๊ะลงทะเบียนอยู่ทางขวามือ (เดินเข้าไม่รู้หรอก ไปตามสัณชาตญาณ แต่คิดว่าเค้าเตรียมมาดีอยู่แล้วว่า จุดลงทะเบียน ควรอยู่ขวามือ ตามความถนัดของคน) ก็จะมีป้าแก่ๆยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ คอยรับแขก เราก็บอกว่ามาลงทะเบียน ก้อเขียนชื่อ เบอร์โทร ลงในกระดาษ จากนั้นเค้าก็อธิบายให้ฟังว่าอะไรเป็นอะไร หารู้ไม่ว่าคุณป้าคนนี้แหละที่ทำงานให้สนามกอล์ฟแห่งนี้มากว่า 50 ปีแล้ว สุดยอดจริงๆ เพราะเมื่อได้ฟังเธอเล่า เธอมีอายุ 70 กว่าปี และจะต้องอยู่ตรงรีเซ็ปชั่นตลอดเวลาทำงานตลอดการแข่งขัน และยังไม่นับหลังการแข่งขันอีก ถือว่าสุดยอดจริงๆ พอคุยเสร็จพอหอมปากหอมคอ ก็เดินเข้าไปโซนที่เรียก Areana ซึ่งเป็นฮอลที่ใหญ่มาก ประมาณเกือบสองร้อยที่นั่งได้ แบ่งเป็นโซนๆ ที่หน้ากระจกเป็นสนามไดร์ฟที่ตีเข้าหา ประทับจิตมาก ระหว่างนั้นก็เดินหาที่ตัวเองอยู่นาน เดินสำรวจทั้งในและนอกห้องอยู่นาน ในที่สุดก็หาเจอ ที่เจ๋งมากคือ ที่ของเราอยู่กลางห้องโถง ทุกคนที่นี่ดูเป็นมืออาชีพมากๆ เมื่อมาถึงขนาดนี้แล้วท้องเริ่มร้อง จึงรีบไปทานอาหาร ซึ่งห้องอาหาร จะมีอาหารเหมือนกับบุฟเฟ่ต์ และเราก็สามารถสั่ง A Lar Carte ได้เช่นกัน จากนั้นก็พยายามไปซื้อของที่ระลึกก่อน เพราะรู้ว่าต้องรีบไปซื้อ ก่อนที่ของที่ระลึกจะหมด ระหว่างทางก็มีโอกาสเจอ Vijay Singha ที่ทีออฟ เจอ Zach Johnson ซ้อมพัตสามลูก และแล้วในที่สุดก็เจอโซนซื้อของที่ระลึก ปรากฎว่าไปถึงร้านปิดบ่ายสองพอดี อดซื้อ ก็ยังต้องแอบขำตัวเองเพราะสนามกอล์ฟใหญ่มาก และไม่คิดว่าร้านค้าจะปิดเร็วในวันนี้ เพราะโดยปกติแล้ว จะปิดที่หกโมงเย็น เมื่อไม่มีอะไรแล้ว เราก็ตรงดิ่งมาที่วัดสันติธรรม ที่จะมาขอพักอาศัยในสัปดาห์นี้ เราได้มีโอกาสพูดคุยกับพระอาจารย์ ถึงได้รู้ว่า วัดนี้ Vijay Singha เป็นคนสร้างสำนักปฏิบัติธรรมให้ บริจาคปัจจัย และ ยังบริจาครถที่ทำโฮล อิน วัน ให้อีก เมื่อสมัยที่คว้าแชมป์เดอะ มาสเตอร์

Monday 3rd Apr’17

เริ่มต้นวันประมาณเก้าโมงเช้า พยากรณ์อากาศบอกว่าวันนี้ฝนจะตก เลยวางแผนว่า จะรีบไปซื้อของฝากในโซนของที่ระลึก แล้วเข้ามาทานอาหารเที่ยงพอดีฝนตก อากาศอึมครึมตั้งแต่เช้า เลยเตรียมเสื้อหนาวไว้ ระยะทางจากวัดสันติธรรม มาที่ สนามออกัสตา ระยะทางประมาณ 30 กม. ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ระหว่างทาง ไม่ได้ลงทางออกเดิม ที่ 1 A-B แต่ไปออก 1 C ซึ่งรถติดระดับนึง เพราะเข้าไปตรงเข้าจอดรถของคนดู ซึ่งทางสนามสร้างเอาไว้ใหญ่มาก เต็มไปด้วยรถและผู้คนจริงๆ เหมือนเป็นเทศกาลใหญ่ของที่นี่ เจ้าหน้าที่ทุกคนยิ้มแย้ม แจ่มใส ทักทายตลอดเวลา เมื่อมาถึงก็รีบทำตามแผน แต่ละชั้นก็จะแบ่งเป็นโซน โซนอาหารแม้จะเปิดแล้ว แต่กลัวเสียเวลาซื้อของ เลยไปที่โซน Grab and Go ก็จะมีของกินหลากหลายให้เลือก แซนวิชมีอยู่สี่ห้าหน้า Master Sandwich, Chicken Sandwich, Egg Sandwich ของกินอย่างอื่นก็มี เช่น โดนัท,คุ้กกี้, โดนัท, ช๊อกโกแลต เต็มไปหมด เปรียบเหมือนเป็นทริปมากิน เมื่อทานเสร็จก็รีบไปที่โซนของที่ระลึก ที่เต็มไปด้วยคนจริงๆ คนเยอะมากกก ต่อคิวถึงสองแถวเพื่อเข้าไปซื้อของที่ระลึก เปรียบเสมือนกับการเข้าไปเล่นเครื่องเล่นดิสนีย์แลนด์เลยก็ว่างั้น เมื่อเข้ามาในร้านก็กว้างใหญ่ แต่คนแน่นเต็มร้านจริงๆ เลือกของอยู่นานมาก อันที่จริงของราคาไม่แพงมากสำหรับบ้านเค้า แต่พอก็อดคิดเป็นเงินไทยไม่ได้ โดยเฉพาะเสื้อผ้า เ สินค้ายอดฮิตได้แก่ หมวก เสื้อผ้า ธง ผ้าเช็ดไม้ ฯลฯ คนแย่งกันซื้อมากมายราวกับได้ฟรี ระหว่างที่ซื้อของก็ถือว่าโชคดีที่เข้ามาเพราะฝนตกบางๆ เมื่อได้ของที่ระลึกได้ดั่งใจแล้ว แต่พอคิดว่าครั้งนึงในชีวิต เลยไม่ได้คิดอะไรมาก เมื่อซื้อเสร็จก็รีบกลับ Arena เพื่อนำของไปเก็บที่รถ ไม่น่าเชื่อเลยว่าพอเข้ามาปุ๊บ ฝนก็ตกทันที ฝนตก และมีประจุไฟฟ้า ทางสนามก็ประกาศอพยพคนกว่าหมื่นคนที่อยู่ในสนาม ออกหมด การแข่งขันที่ดีที่สุดของโลกนี้ ทำได้ทุกอย่างจริงๆ ได้มีโอกาสนั่งข้างๆกับนักข่าวท้องถิ่นคนหนึ่ง และสอบถามถึงที่มาที่ไปของสนาม มีเรื่องน่าสนใจอย่างหนึ่งว่า ณ ตึกที่นั่งอยู่นี้ สร้างมาได้สวยมาก แต่ใช้เวลาไม่ถึง หนึ่งปีในการสร้าง โดยเริ่มสร้างตึกนี้ตั้งแต่พฤษภาคมปีที่แล้ว และทางสนามก็ได้กว้านซื้อที่รอบๆจนหมด โดยเสนอราคาถึงสามเท่าของราคาที่ดินรอบๆสนาม แต่มีบ้านหนึ่ง ที่ไม่ยอมออกไป แม้ข้อเสนอบ้านเป็นล้านเหรียญ ก็ยังไม่ออก ส่วนรอบๆถนนตรง วอชิงตัน ก็ซื้อแล้วเช่นเดียวกัน และในปีหน้า ก็จะมีการพัฒนาเป็นส่วนหนึ่งของสนาม เราต้องรอลุ้นว่าทางสนามกอล์ฟมีโปรเจคจะทำอะไร ส่วนในช่วงบ่าย ก็ได้มีโอกาสออกไปดูนักกอล์ฟชื่อดังมากมายที่สนามไดร์ฟกอล์ฟ นักกอล์ฟดังๆที่เจอ ได้แก่ Rickie Fowler ในห้อง Interview, Justin Thomas ที่กำลังซ้อมระเบิดทราย Ernie Els, Kevin Na, Alex Noren, Zach Johnson, Mike Weir, Vijay Singh ขณะซ้อมไดร์ฟ, John Rahm ขณะซ้อมชิพ, Louis Oosthuizen ขณะซ้อมระเบิดทราย ฯลฯ หลังจากที่ฝนตกไปรอบหนึ่งแล้ว นักกอล์ฟเหล่านี้ก็ออกมาซ้อมชิพ พัตต์ ไดร์ฟ อยู่ประมาณครึ่งชม จนซ้อมได้อยู่ซักพักใหญ่ ก็มีการประกาศอีกครั้งว่า จะมีทอร์นาโด พัดผ่านมา การซ้อมในวันนี้จึงยุติไป

Tuesday 4th Apr’17

วันนี้ เป็นวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสมาก ตามพยากรณ์อากาศเลย ออกจากที่พักไปถึงสนามออกัสต้า ประมาณสิบโมง ซึ่งวันนี้ มีนัดกับพี่คนไทย ที่อยู่แอตแลนต้ามาแล้วสิบกว่าปีตั้งแต่เรียนจบ และเป็นคนชอบตีกอล์ฟ แกจะมาดูเดอะมาสเตอร์เกือบทุกปี ในปีนี้พี่เค้าถูกล็อตเตอรี่ได้เข้ามาดู ซึ่งแม้ว่าจะเป็นล็อตเตอรี่ แต่ก็ต้องเสียเงินนะจ๊ะ นัดเวลากันไว้ประมาณสิบเอ็ดโมงครึ่ง แต่กว่าจะได้เจอก็ราวๆบ่ายโมงกว่า เพราะคนเยอะมาก พี่เค้าหาที่จอดรถไม่ได้เลย เมื่อเจอกัน บรรยากาศวันนี้คนยังคงเยอะมาก หลายหมื่นคน นี่ขนาดเป็นแค่วันซ้อม แต่จากที่ฟังพี่เค้าเล่า ถือนี่ว่าคนน้อยแล้ว วันแข่งจะเยอะกว่านี้ เรายเลยวางแผนกันว่าจะเข้าไปซื้อของก่อนเข้าไปเดินในสนามกอล์ฟ เลยให้เวลากันครึ่งชม หลังจากนั้นพอซื้อของกันเสร็จ เราเลยอาสาเอาของไปเก็บให้ที่ตึกมีเดีย เพราะจะได้ไม่เกะกะเวลาเดิน ตึกมีเดียจะอยู่ทางด้านหน้าประตูทางเข้าเบอร์ห้า ระหว่างนั่งรถคาร์ทที่รับส่งระหว่างสนามกอล์ฟกับตึกมีเดีย ได้มีโอกาสพูดคุยกับคนขับว่า เค้าเป็นอาสาสมัคร ที่บินมาจากรัฐมิชิแกน เพื่อมาทำงานและที่สำคัญมาดูกอล์ฟที่นี่ โดยเค้าเข้ามาได้ เพราะน้องสาวเค้าเป็นคนที่นี่ และทำงานในสัปดาห์นี้ จะมีวันหยุดสองวัน ซึ่งเค้าจะพยายามอยากมากที่จะแลกเวรกับเด็กๆ เพื่อให้ได้ดูกอล์ฟในวันสุดท้าย และมีอีกคนที่นั่งมาด้วยกัน เลยถามว่า ปกติบัตรเข้ามาดู ตกวันละเท่าไหร่ เค้าก็บอกว่า ประมาณห้าร้อยเหรียญ นี่ไม่นับพวกบัตรผีนะ ราคาแพงกว่านี้อีกมาก ในวันนี้พี่เค้าก็พาทัวร์ ลืมบอกไปว่า ที่นี่เค้าห้ามใช้มือถือเป็นอันขาด ผู้ชมทุกคนจะต้องผ่านด่านรปภ และฝากโทรศัพท์มือถือไว้ตรงนั้นเท่านั้น แต่เฉพาะวันซ้อมเท่านั้น ที่จะสามารถถ่ายรูปได้จากกล้องถ่ายรูป จากนั้นพวกเราก็เริ่มเดินลงเขาไปตามหลุมสิบแปด เพื่อให้ได้ไปเจอนักกอล์ฟหลายๆคนที่ออกรอบซ้อมในช่วงบ่าย ระหว่างทางก็พยายามถ่ายรูปในทุกมุมให้ได้มากที่สุด นักกอล์ฟที่ได้มีโอกาสเจอเช่น Ernie Els, Lee Westwood, Jonathan Vegas, Branden Steele, Trevor Immelman, Adam Scott, Justin Rose, Henrik Stenson, Si Woo Kim ฯลฯ พวกเราก็เดินลัดเลาะ แลกเปลี่ยนบทสนทนากันมาเรื่อยเปื่อยตั้งแต่หลุมสิบแปด หลุมสิบเจ็ดดูทีออฟของโจนาธาน เวกัส ที่ออกกับ แบรนเดน สตีล เจอเทรเวอร์ อิมเมลแมน ซ้อมอยู่บนกรีนหลุมหก ที่หลังกรีนแล้วใช้ไฮบริดพัตต์ และ เวดจ์ชิพ เพราะพื้นที่แคบมาก เลยตะโกนถามว่า which one you feel more comfortable? he replied back “depend on the lie” จากนั้นก็ไปที่พาร์สามอันโด่งดังที่ไทเกอร์ ชิพอิน โดยพาร์สามหลุมนี้จะมีประเพณีการสกิปบอลบนผิวน้ำให้ไปออนบนกรีน นั่งดูอยู่สองก๊วนก็ออกเดินต่อ เพื่อไปจุดที่เรียกว่า Amen Corner นั่นคือ หลุม 11,12,13 พี่เค้าบอกว่าเป็นสามหลุมที่ยากที่สุด ถ้าผ่านไปได้ด้วยพาร์หมดถือว่ากำไร ระหว่างรอที่พาร์สามหลุม สิบสอง ก็เจอลิงยักษ์ เอ้ย ไม่ใช่ คนตัดกิ่งไม้ ที่กำลังห้อยโหนปีนต้นไม้ด้วยเชือก สนามนี้จะใช้ของดีที่สุด นั่นหมายความว่า การที่เค้าเอาคนปีนขึ้นไปตัด นั่นเปรียบเทียบเหมือนเอากรรไกรไปตัดกิ่งกุหลาบ ทริมเพื่อให้ดูสวยงาม และดูเป็นธรรมชาติ เปรียบเทียบอีกอย่างคือ ทำศัลยกรรมให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด บนพื้นหญ้าก็เป็นสีเขียวตัดกับสีเขียวอ่อน เพราะการตัด จะใช้รถตัดหญ้า ตัดแบบย้อนหญ้า สนามก็ยาวอยู่แล้ว ตัดย้อนหญ้าอีกก็เบรคลูกให้วิ่งได้ไม่เยอะ จะเห็นได้ว่ารายละเอียดยิบย่อย ก็พิถีพิถันหมด ลืมเล่ากว่าที่ซ้อมลูกสั้นตรงระเบิดทราย จะมีแค้ดดี้คอยกวาดทรายที่ระเบิดมาบนกรีนออกหมด ไม่ให้เหลือเศษหินแม้แต่นิดเดียว คนซ้อมก็ซ้อมไป คนกวาด ก็กวาดไป ในเวลาเดียวกัน โดยอุปกรณ์กวาดของเค้า จากที่มองไกลๆ คือ เป็นไม้ยาวๆคล้ายไม้เสียบลูกโป่ง ยาวประมาณสามคันธง แล้วก็เกลี่ยไปมาให้เศษดิน หิน ทรายบนกรีน ออกไปจากกรีน กลับเข้ามาที่หลุมสิบเอ็ด พาร์สี่ยาว 500 หลา หลุมโหด ได้มีโอกาสเจอจัสติน โรส แอพโพรชช๊อต ขึ้นกรีน กรีนก็แคบ และ เรียวมาก มีน้ำอยู่หน้าซ้าย เนื่องจากหลุมสิบเอ็ด สิบสองติดกัน เลยรอดูจัสติน ทีออฟหลุมสิบสอง พาร์สามไปเลย ก่อนจัสตินทีออฟ ก็ได้มีโอกาสเจอกับ ชอน โฟลี่ อีกหนึ่งอดีตโค้ชของไทเกอร์ ก็ได้มีโอกาสถ่ายรูปร่วมกัน และก็ได้มีโอกาสดูวงสวิงของจัสตินแบบใกล้ๆบอกได้คำเดียวว่า สุดยอด mechanic เมื่อดูจัสตินเสร็จ ก็เป็นอันได้ฤกษ์เดินกลับ ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่ง เราทั้งหมดก็ไปยืนอยู่หน้าคลับเฮ้าส์ กับ ต้นโอ๊ค ที่ผ่านมา เราเข้าใจว่าบัตรเราไม่น่าจะเข้าได้ แต่พอลองถามยาม เค้าก็บอกว่าสามารถเข้าไปได้ เลยรีบเข้าไป ถ่ายรูปนักกอล์ฟที่เพิ่งออกรอบเสร็จ ถ่ายตอนสัมภาษณ์ และในที่สุด ก็ลองเข้าคลับเฮ้าส์ จุดพีคอยู่ที่ ได้มีโอกาสเจอแจ๊ค นิคลอส ขอรับท่าน ขณะกำลังถ่ายสปอตโฆษณาพูดแค่ประโยคเดียว โดยมีการเทคสองสามรอบ ขณะที่แจ็คกำลังจะไป เลยถามไปขออนุญาตถ่ายรูปด้วย อีกหนึ่งพีคค่าาา แจ็คไนซ์มากกก คงเห็นเราเป็นดูเป็นเด็กผู้หญิงเอเชียตัวเล็กๆ เค้าอ้าแขนรับเราด้วยความเวลคัม แล้วเด็กผู้ชายที่ยืนเฝ้าตรงนั้นถ่ายให้ เป็นช่วงเวลาที่สุดจะบรรยาย เพราะเราได้มีโอกาสเข้ามาในที่ๆสำคัญที่สุดอย่างคลับเฮ้าส์ของสนามกอล์ฟออกัสต้า กับนักกอล์ฟในตำนานและความเป็นกันเองของแจ๊ค นิคลอส ก่อนจากกัน เลยกล่าวคำขอบคุณ thank you so much, you are always my idol แจ็คกล่าวขอบคุณพร้อมกับขยิบตาให้ คลับเฮ้าส์ของสนามนี้ เดินเข้าไปจากด้านต้นโอ๊ค ตรงที่แจ๊คอยู่ จะเป็นด้านขวามือ เหมือนเป็นที่นั่งเล่นแคบๆ ส่วนทางด้านซ้าย จะเป็นบันไดเล็กมากเพื่อขึ้นไปชั้นสองเมื่อเดินตรงเข้าไปอีก ตรงกำแพงด้านขวา จะติดรูปของแชมป์ทั้งหมด ซึ่งล่าสุดก็คือ แดนนี่ วิลเล็ต คือ บอกเลยว่าคลับเฮ้าส์ดูเล็กๆ แต่อบอุ่น เต็มไปด้วยประเพณี ขนบธรรมเนียม และประวัติศาสตร์ซึ่งคงไว้ คลาสสิก ก่อนจบวันบอกเลยว่า เป็นอีกวันที่ประทับใจไม่ลืมเลือนจริงๆ

Wednesday 5th April 2017

เป็นอีกวันที่มีพยากรณ์อากาศว่าฝนจะตกในช่วงบ่าย par 3 challenge และก็เป็นไปตามคาด เราไปถึงสนามกอล์ฟช่วงสายๆ หวังว่าจะหาอะไรทานในช่วงเที่ยง เมื่อไปถึงก็รีบถือกล้องออกไปถ่ายรูปด้านนอกสนามตาม Tour Truck ที่อยู่ด้านนอกสนามตรงถนน Washington Road รถเหล่านี้เป็นรถสำหรับฟิตติ้งไม้กอล์ฟ ที่จะอยู่เพียงแค่ก่อนการแข่งขัน 3-5 วัน โดยระหว่างฝึกซ้อมของนักกอล์ฟๆสามารถมาเปลี่ยนอุปกรณ์ได้ ฟิตติ้งไม้กอล์ฟได้ เป็นบริการสำหรับสปอนเซอร์กับนักกอล์ฟ แบรนด์ต่างๆเช่น Titleist, Taylormade, Nike, Wilson, PXG, Mizuno, Cobra, Srixon จอดเรียงกันหน้าสนามกอล์ฟ น่าเสียดายที่ไม่ได้มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมชม ได้เพียงถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศมาเท่านั้น ถึงแม้ฝนจะตก และทางสนามก็ประกาศให้คนออกนอกสนาม แต่ก็ยังมีคนอยู่คับคั่ง ส่วนเราก็ทานอาหารได้ซักพัก แล้วเมื่อทานอาหารเสร็จ ฝนก็หยุดตกพอดี แต่อากาศยังคงอึมครึมอยู่ ก็ได้ออกไปถ่ายรูปเพิ่มเติมนักกอล์ฟเพิ่มเติมที่สนามไดร์ฟ ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสดี เพราะทางสนามยังไม่ได้ปล่อยให้ผู้ชมเข้ามาในสนาม เราจึงมีโอกาสเก็บภาพนักกอล์ฟได้เต็มที่ แต่พอซ้อมกันได้ซักพัก ฝนก็เริ่มตกอีก และเป็นที่น่าเสียดาย เมื่อเวลาบ่ายโมงครึ่ง ทางสนามได้มีประกาศยกเลิกการแข่งขันพาร์สาม ก่อนกลับที่พัก ได้ข่าวมาว่า น้องเม เอรียา จะมารับรางวัลที่ Savannah Pavillion ซึ่งอยู่ในออกัสต้า ซึ่งห่างจากสนามออกัสต้าไม่เกินยี่สิบนาที เมื่อไปถึงประมาณเกือบห้าโมง ก็ได้พบกับทางทีมงานและสอบถาม ซึ่งทางเค้าอนุญาตให้เก็บภาพได้ แต่อาจต้องรอถึงเกือบสองทุ่ม เลยติดต่อน้องๆ เพื่อที่ว่าวันรุ่งขึ้น ตั้งใจอยากจะพาทัวร์น้องดูเดอะมาสเตอร์ เมื่อกลับถึงที่พัก ข่าวใหญ่ที่เกิดขึ้น นั่น ก็คือ ข่าวของนักกอล์ฟมือหนึ่งของโลก ดัสติน จอห์นสัน ตกบันไดในบ้านพัก และมีอาการเจ็บหลัง แต่ยังไม่ทำการถอนตัวอย่างเป็นทางการ โดยทางผู้จัดการแจ้งว่าจะดูอาการในวันรุ่งขึ้นของการแข่งขันวันแรก ซึ่งในวันแรก ดัสติน จะออกเป็นกรุ๊ปสุดท้ายของวัน


Comments


© 2023 by Fashion Diva. Proudly created with Wix.com

bottom of page