Best Coach or Coach for life

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน ในช่วงนี้เมื่อไปที่ไหน ก็มักได้ยินคนส่งเสียงเชียร์โปรเม โปรโม หรือ โปรแหวน กันทั้งนั้น ก็คงไม่แปลกนะคะที่จะลุ้นเอาใจช่วยโปรสาวไทยทั้งหลายที่ได้เข้าไปเล่นในแอลพีจีเองกันยกแผงขนาดนั้น ถ้าถามว่าใครเป็นนักกอล์ฟไอดอลละก็ บอกเลยว่า นักกอล์ฟสาวไทยทุกคนต่างหากที่เป็นไอดอล เพราะเราทุกคนต้องเจอฝ่าอุปสรรคอันมากมายเหลือเกิน กว่าที่จะถึงจุดนั้นๆได้ ทั้งรอยยิ้มและคราบน้ำตา แต่ก่อนจะเห็นความสำเร็จอันมากมายของน้องๆเหล่านี้ รวมถึงอุปสรรคต่างๆในวิถีชีวิตแต่ละคน ยากง่ายต่างกันออกไป ใครสามารถฝ่าด่านอรหันต์หลุดมาได้ ก็จะได้เห็นความสำเร็จอยู่ข้างหน้าไม่ไกล วันนี้เลยอยากมาเล่าสู่กันฟังถึง ผู้ที่อยู่เบื้องหลังกันบ้าง ถึงการทำงานแต่ละขั้นตอน แน่นอนว่าคงไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆ นั่นก็คือ โค้ชผู้ฝึกสอน สำหรับนักกีฬาระดับอาชีพ โค้ช มีหน้าที่ดูแลภาพรวมองค์ประกอบให้นักกีฬาคนนั้น โดยเฉพาะเรื่องเทคนิควงสวิง และจิตวิทยาขั้นพื้นฐาน หากนักกีฬาขาดในส่วนอื่นๆ โค้ชก็อาจจะหาส่วนต่างๆมาเติมเต็มส่วนที่นักกีฬาคนนั้นขาดหาย เหมือนการต่อจิ๊กซอว์ หลายคนอาจหาโค้ชที่ดีที่สุด ซึ่งแน่นอนว่ามีจริงอยู่ในโลก แต่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่ดีที่สุด จะเหมาะสมกับตัวนักกีฬาคนนั้น ดังนั้น การหาโค้ชที่ดี พัฒนาเราได้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะหากันง่ายๆเลยโดยเฉพาะในประเทศไทย ที่ยังขาดแคลนทรัพยากรบุคคล แม้กระทั่งในยุคนี้ ถึงแม้จะมีคนมีความรู้มากขึ้น แต่หลายคนก็ยังขาดประสบการณ์ ในช่วงยุคหลายสิบปีก่อน ท่านนักกอล์ฟคงจะลงความเห็นว่า David Leadbetter เป็นโค้ชที่ดีที่สุดของโลก ทั้งโปรและเยาวชนไทย ในยุคนั้น ต่างก็ไขว่คว้าหาความรู้ข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนกอล์ฟกัน สุดท้ายก็เป็นแค่การพาณิชย์ ได้ทิปส์เพียงเล็กน้อยกลับมาบ้าน บ้างก็สามารถเข้าถึงเฮดโค้ช บ้างก็เข้าไม่ถึงสลับกันไป ถ่ายต่อมาถึงยุคของทองของ Butch Harmon อดีตโค้ชกอล์ฟของ ไทเกอร์ วู้ดส์ ในช่วงยุครุ่งเรือง แต่ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับยุคของเดวิด ที่ค่อนข้างจะเข้าถึงเฮดโค้ชได้ยาก ถ้าไม่ใช่มือระดับท๊อปของโลก ส่วนในปัจจุบัน เราคงได้เห็นโค้ชผู้ฝึกสอนกอล์ฟมากมายทั้งไทยและเทศ ต่างออกมาพูดถึงทฤษฎีต่างๆ ที่จะช่วยให้ท่านนักกอล์ฟมีวงสวิงที่ดีขึ้น หรือ ช่วยลดสกอร์ วันนี้จึงอยากยกตัวอย่างของสองพี่น้องโม เม ที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับโค้ชที่ชื่อ Gary Gilchrist หลายคนอาจสงสัยว่าเค้าคนนี้คือใครกันหนอ ณ ตอนนี้ แกรี่ฝึกสอนนักกอล์ฟมืออันดับหนึ่งของโลกอย่าง Lydia Ko ที่พึ่งจะมาร่วมงานเมื่อต้นปีที่ผ่านมา อันดับสองของโลกนั่นก็คือโปรเมย์ ที่ร่วมงานมาปีกว่าแล้ว และอันดับสามของโลกอย่าง Shan Shan Feng ที่อยู่กับแกรี่มาตั้งแต่แรกเริ่ม คุณผู้อ่านลองคิดกันเอาเองว่า นักกอล์ฟที่ดีที่สุดทั้งสามคนของโลก อยู่ภายใต้การฝึกสอนของเค้า นี่ยังไม่นับรวมอดีตมืออันดับหนึ่งของโลก อย่าง Yani Tseng หรือ Paula Creamer ที่พึ่งจะมาร่วมงานด้วยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา สิ่งที่กำลังจะสื่อให้ท่านผู้อ่านฟัง นั่นก็คือ แกรี่ไม่ได้ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร นอกเสียจากการดึงความฝันและศักยภาพของตัวนักกีฬาคนนั้นออกมาให้ได้มากที่สุด นั่นเป็นสิ่งสำคัญหลักที่การเล่นกอล์ฟในสมัยนี้ แม้จะมีความกดดันมากมายเหลือเกิน แต่นักกีฬาสามารถสนุกไปกับมันได้ และอย่าลืมว่านี่เป็นยุคของนักกีฬาอาชีพที่อายุเฉลี่ยเพียงแค่ 20 กว่าๆเท่านั้น ครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสได้ถามเมย์ว่า คิดยังไงถึงไปเรียนกับแกรี่ เพราะโค้ชกอล์ฟมีมากมายที่อ้าแขนรับเมย์ อะไรที่ทำให้เราอยากร่วมงานกับเค้า เมย์ตอบว่า “การเรียนกับเค้า ทำให้เมย์สบายใจ เค้าไม่ได้พยายามเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย แต่เทคนิคเพียงแค่เล็กน้อย สามารถทำให้เมย์ตีได้ดีขึ้น โดยที่ไม่ต้องพยายามอะไรมากเลย” ในทางกลับกัน หากคุณพึ่งจะฝึกกอล์ฟแล้วอยากตีให้ดี คุณอาจไม่สามารถคิดแบบนักกอล์ฟที่ซ้อมทุกวันได้ นักกอล์ฟมืออาชีพ จะผ่านการฝึกอย่างหนักหน่วงมาก่อน แล้วการฝึกต่อในสเตปต่อไป คือ การฝึกซ้อมให้มีคุณภาพ หากคุณเป็นผู้ปกครองที่อยากจะให้ลูกของคุณ ก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพ อย่างแรกที่คุณควรตั้งคำถามกับตัวคุณและลูกของคุณ ว่า ลูกคุณสนุกกับการเล่นกอล์ฟหรือไม่ หากเริ่มด้วยความสนุกแล้วละก็ ทุกอย่างก็จะค่อยๆตามมา โดยคุณไม่จำเป็นต้องบังคับ นอกเหนือจากโค้ชแกรี่แล้ว โปรเมย์ ยังศึกษาเพิ่มเติมกับโค้ชเปียและลินน์ อันโด่งดัง ที่เป็นโค้ชกึ่งจิตวิทยาสำหรับกีฬา โดยจะสอนให้คิดเป็นกระบวนการต่างๆ การตั้งทัศนคติต่อการเล่นกอล์ฟในแต่ละช๊อต เป็นเรื่องสำคัญมากๆสำหรับโค้ชเปียและลินน์ โค้ชทั้งสองนี้ ยังเคยปั้นนักกอล์ฟมืออันดับหนึ่งของโลกมาแล้วอย่าง Annika Sorenstam ที่ฝึกสอนตั้งแต่สมัยอยู่มหาวิทยาลัย, Ai Miyazato ที่เรียนมากว่าสี่ห้าปีกว่าจะเป็นมืออันดับหนึ่งของโลก รวมถึง Yani Tseng ในช่วงที่เป็นมืออันดับหนึ่งของโลกเช่นกัน จะเห็นได้ว่า การอยู่กับโค้ช ไม่จำเป็นต้องอยู่กับแค่คนๆเดียว ตลอดไป หรือ ไปหาหลายๆคน แล้วเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะสุดท้าย การที่จะสำเร็จได้นั้น มันขึ้นอยู่กับตัวเองจริงๆต่างหาก โค้ช หรือ ส่วนอื่นๆ จะเป็นส่วนประกอบเติมเต็มให้ไปถึงจุดหมายได้เร็วขึ้น การมีโค้ชคนเดียว หลายปี ก็อาจจะส่งเราไปได้แค่จุดๆหนึ่ง หรือ หากมีโค้ชหลายคน อาจเป็นสิ่งที่ดีที่จะนำข้อดีของแต่ละคน มาใช้ แต่ก็อย่าลืมว่า แต่ละคนคงมีวิธีการสอนที่แตกต่างกัน เทคนิคก็ต่างกันไป อาจทำให้ท่านนักกอล์ฟมีความรู้เพิ่มขึ้นก็จริง แต่ก็อาจสับสนได้ เพราะเมื่อรู้เยอะ ก็จะคิดเยอะตามไปด้วย จนลืมถึงความสนุกของกีฬากอล์ฟ สิ่งที่อยากจะแนะนำ นั่นก็คือ ตนต้องเป็นที่พึ่งแห่งตน ขอให้รู้ว่าตัวท่านนักกอล์ฟขาดอะไร แล้วตั้งใจจะแก้ปัญหาตรงจุดไหน เมื่อทราบแล้ว ก็หาโค้ชที่ตอบโจทย์เราได้ เหมือนกับโปรเม ที่สามารถเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองขาดและสามารถปลดล็อกตัวเองได้ในที่สุด สุดท้ายนี้ ขอให้ท่านนักกอล์ฟ อย่าลืมสนุกไปกับกีฬาที่ท่านชอบ ตอนหน้าจะเป็นเรื่องอะไร ติดตามกันให้ได้นะคะ